โรคจมูกอักเสบจากภูมิแพ้แมลงสาบ

8486

โรคจมูกอักเสบจากภูมิแพ้แมลงสาบ เป็นโรคที่เกิดจากการอักเสบของเยื่อบุจมูกที่เกิดจากการเกิดภูมิแพ้ต่อแมลงสาบหรือซากของแมลงสาบ ซึ่งเป็นสารก่อภูมิแพ้จากสัตว์ชนิดหนึ่งที่ทำให้เกิดอาการอักเสบของจมูก

แมลงสาบหรือซากแมลงสาบนอกจากจะมีผลต่อการทำให้เกิดโรคจมูกอักเสบแล้วยัง สามารถส่งผลทำให้เกิดโรคภูมิแพ้ชนิดอื่น เช่น โรคหอบหืด แมลงสาบหรือซากแมลงสาบที่ก่อให้เกิดโรคจมูกอักเสบมักพบได้ในสถานที่อาคาร บ้านเรือนหรือที่ทำงาน โดยเฉพาะในบริเวณที่อับชื้น ชื้นแฉะ และรก แสงแดดไม่ส่องถึง เช่น ตู้เสื้อผ้า ห้องครัว ห้องน้ำ ถังขยะแมลงสาบหรือซากแมลงสาบสามารถก่อให้เกิดอาการภูมิแพ้ที่พบบ่อยมากรองจากไร ฝุ่น ด้วยการสัมผัส การสูดดม และการกินหรือเข้าสู่ระบบทางเดินอาหาร

ความชุกของโรคจมูกอักเสบจากภูมิแพ้แมลงสาบ พบว่า ในประเทศแถบยุโรปพบอัตราการเกิดโรคนี้ค่อนข้างต่ำ แต่ในส่วนประเทศเขตร้อน เช่น ประเทศไทย ประเทศไต้หวัน และประเทศอื่นๆ พบมากสูงถึงมากกว่าร้อยละ 40 ของประชากรที่เกิดโรคภูมิแพ้เลยทีเดียวแมลงสาบ

แมลงสาบมีมากกว่า 4000 สายพันธุ์ ในจำนวนนี้ มีเพียงประมาณ 8-10 สายพันธุ์ที่อันตรายหรือมีผลต่อการเกิดโรคในมนุษย์ ในประเทศไทยมีแมลงสาบมากกว่า 10 สายพันธุ์ แต่ที่พบมากมีเพียงประมาณ 4 สายพันธุ์ คือ
1. Perplaneta americana หรือ American cockroach เป็นสายพันธุ์ที่มีแหล่งกำเนิดในทวีปแอฟริกา ปัจจุบันมีการแพร่กระจายในประเทศไทย และทั่วโลก พบมากที่สุดในประเทศไทย ลำตัวใหญ่ ยาวประมาณ 35-40 มม. ลำตัว และปีกมีสีน้ำตาลเข้ม

2. Blatella germanica หรือ German cockroach เป็นสายพันธุ์ที่พบแพร่กระจายไปทั่วโลก พบมากในประเทศอเมริกา ลำตัวยาวประมาณ 12-16 มม. ลำตัว และปีกมีสีเหลืองอมน้ำตาล

3. Blatella orientalis หรือ common cockroach เป็นสายพันธุ์ที่พบน้อยในประเทศไทย ลำตัวมีขนาดกลาง ยาวประมาณ 20-27 มม. ลำตัวสีน้ำตาลดำออกแดง และมีคาดดำสลับเหลือง

4. Periplaneta australasia หรือ Australian cockroach เป็นสายพันธุ์ที่มีแหล่งกำเนิดในทวีปแอฟริกา ชอบอากาศร้อน พบมากในเขตอบอุ่น เช่น ไทย พม่า อินเดีย มาเลเซีย เป็นต้น ลำตัวมีขนาดใหญ่ ยาวประมาณ 27-33 มม. แต่เล็กกว่าสายพันธุ์ Perplaneta americana เล็กน้อย โดยมีสีคล้ายคลึงกัน แต่มีสีเข้มกว่า และมีแถบเหลืองอยู่ด้านข้างของปีกคู่แรก

ลักษณะการอักเสบของจมูกจากสารภูมิแพ้แมลงสาบ
1. เกิดการอักเสบของเยื่อบุจมูกทำให้เกิดอาการคัดจมูก คันจมูก มีน้ำมูก และจามติดต่อกันเป็นระยะอย่างน้อยครึ่งชั่วโมง/วัน
2. ความรุนแรงจากปฏิกิริยาของสารภูมิแพ้จะแตกต่างกันในแต่ละบุคคลขึ้นกับลักษณะพันธุกรรม และภูมิไวของแต่ละบุคคล
3. มีอาการภาวะจมูกอักเสบกับการตรวจสอบสารภูมิแพ้ทางผิวหนังจะมีผลบวก

สารก่อภูมิแพ้ในแมลงสาบ
แมลงสาบแต่ละสายพันธุ์จะทำให้เกิดอาการภูมิแพ้ที่เกี่ยวข้องกับระบบทางเดินหายใจไม่เหมือนกัน จากการศึกษาตั้งแต่ปี ค.ศ. 1964 เกี่ยวกับสารก่อภูมิแพ้ในแมลงสาบนั้น สามารถจำแนกสารที่ทำให้เกิดภูมิแพ้ได้หลายชนิดที่สกัดได้จากแมลงสาบ ได้แก่ Bla g I, Bla g II, Bla g IV, Bla g Vและ Per a I เป็นสารชนิด heat stable protein ที่ทำให้เกิดภูมิแพ้ในมนุษย์ สารเหล่านี้จะพบได้ในของลำตัว ปีก ซึ่งจะให้สารที่ก่อภูมิแพ้มากกว่าในส่วนของไข่ อวัยวะภายใน และอุจจาระแมลงสาบ

การวินิจฉัย
1. การซักประวัติ และตรวจร่างกายที่เกิดจากภาวะที่เกี่ยวข้องกับอาการภูมิแพ้ชนิดต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นอาการจมูกอักเสบ โรคหอบหืด ผืนคัน
2. การตรวจเลือดหา cockroach specific lgE antibody ซึ่งเป็นลักษณะเฉพาะของการเกิดภูมิแพ้ต่อแมลงสาบ
3. การทดสอบทางผิวหนังจากภูมิไวของร่างกายทีมีต่อแมลงสาบ

การรักษา
1. การใช้สารสกัดจากตัวแมลงสาบเพื่อสร้างภูมิคุ้มกันต่อภูมิแพ้
2. การให้ยารักษา ได้แก่ oral corticosteroid, cromolyn sodium, decongestant และketotifen เป็นต้น

การป้องกันสำหรับผู้เกิดภูมิแพ้แมลงสาบ
1. หลีกเลี่ยงการทำงานในสถานที่คับแคบ ที่รก ที่ชื้นแฉะ หรือมีการหมักหมมของขยะ
2. หลีกเลี่ยงการสัมผัสกับแมลงสาบ ซากแมลงสาบ
3. ควรทำความสะอาดที่อยู่อาศัยให้สะอาดอยู่เสมอ โดยเฉพาะบริเวณซอกมุมต่างๆ พื้นที่ชื้นแฉะ ห้องครัว ห้องน้ำ รวมถึงตู้เสื้อผ้า และสถานที่เก็บข้าวของเครื่องใช้ต่างๆ ทั้งนี้ ควรสวมเสื้อผ้า และผ้าปิดจมูกให้มิดชิดทุกครั้ง
4. การทำลายแหล่งเพาะพันธุ์ และแหล่งอาหารของแมลงสาบ เช่น กองขยะ กองไม้ เศษซากอาหาร เป็นต้น
5. การกำจัดแมลงสาบ เช่น การใช้กับดักแมลงสาบ การใช้เหยื่อพิษ การใช้ควันพิษ รวมถึงการใช้ยาฆ่าแมลงต่างๆ